ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

นักเรียนชั้น ม.4/2 ส่งงานการถอดคำประพันธ์ เรื่อง อิเหนา ภายในวันที่ 25 กันยายน 2552

ให้นักเรียนส่งเฉพาะงานที่ถอดคำประพันธ์แล้วเท่านั้น
และเขียนชื่อ นามสกุล เลขที่ให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์ในการให้คะแนน

19 ความคิดเห็น:

  1. เกรียงไกร ศูนย์กลาง18 กันยายน 2552 เวลา 22:59

    นาย เกรียงไกร ศูนย์กลาง ชั้น ม.๔/๒ เลขที่๑๐
    บทละครเรื่องอิเหนา
    (หน้า๔๓)

    บัดนั้น ทั้งสองทูตาคนขยัน
    ซึ่งถือสารไปเมืองดาหานั้น พากันรีบกลับมาฉับไว
    ถึงกะหมังกุหนิงนคเรศ มายังนิเวศน์วังใหญ่
    พอเวลาเฝ้าท้าวไท ก็เข้าไปในพระโรงรจนา

    จึงประนมก้มเกล้าเคารพ ทูลพระองค์ทรงภพนาถา
    ข้าไปได้ถวายสารา ท้าวดาหาทราบสิ้นทุกประการ
    ตรัสขาดว่าราชบุตรี จรกาธิบดีมากล่าวขาน
    พระยกให้ได้กำหนดนัดงาน ยังแต่จะแต่งการวิวาห์กัน
    บรรดาของถวายนั้นไม่รับ ส่งกลับคืนมาทุกสิ่งสรรพ์
    มิได้คิดเกรงองค์พระทรงธรรม์ บากบั่นสลัดตัดรอน
    ข้าทูลความตามสั่งนอกสารา ว่ามิให้พระธิดาดวงสมร
    จงเร่งตกแต่งพระนคร รับทัพภูธรจะยกมา
    จะชิงนางโฉมยงให้จงได้ ใครมีชัยก็จะสมปรารถนา
    ท้าวตรัสว่าตามแต่วิญญาณ์ พระราชาจงทราบบาทมูล

    เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงนเรนทร์สูร
    ได้ฟังทั้งสองทูตทูล ให้อาดูรเดือดใจดังไฟฟ้า
    จึงบัญชาตรัสด้วยขัดเคียง ดูดู๋เจ้าเมืองดาหา
    เราอ่อนง้อขอไปในสารา แต่ว่าจะรับไว้ก็ไม่มี
    ถึงจรกามากล่าวนางไว้ ได้ยกให้เขาก่อนก็ควรที่
    จะโอภาปราสยมาให้ดี นี่สิตัดไมตรีให้ขาดทาง
    เราก็เรืองฤทาศักดาเดช อาณาจักรนัดเรศกว้างขวาง
    จำต้องมีมานะไม่ละวาง จะชิงนางบุษบาลาวัณย์
    แม้นมิได้สมคิดดังจิตปอง ไม่คืนครองกรุงไกรไอวรรย์
    จะสงครามตามตีติดพัน ไปกว่าชีวันจะบรรลัย

    …………………………………………………..

    ถอดคำประพันธ์(หน้า๔๓)
    บัดนั้นทูตทังสองคนที่ท้าวกะหมังกุหนิงได้ส่งให้ถือสารไป
    เมืองดาหา รีบกลับมาหาท้าวกะหมังกุหนิงแล้วทูตบอกว่าท้าวดาหาได้ยกนางบุษบาให้กับระตูจรกาไปแล้ว ส่วนของที่นำไปฝากท้าวดาหาไม่รับและให้นำกลับมาคืน ข้าจึงได้บอกกับท้าวดาหาว่า ถ้าไม่ยกนางบุษบาให้ ก็ขอให้รอรับมือจะยกทัพกลับมาทำศึกสงครามเพื่อแย่งชิงนางบุษบา ท้าวดาหาจึงบอกว่าก็แล้วแต่พวกท่านเถิด
    เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงได้ฟังทูตทั้งสองบอกก็โกรธแค้นมาก จึงตัดพ้อต่อว่า ดูซิท้าวดาหาเราอุตส่าห์เขียนสารไปง้อขอนางบุษบาให้กับลูกชาย ก็น่าจะรับฟังความเห็นของข้าบ้างมาเล่นหักหน้ากันแบบนี้ เดี๋ยวข้าจะยกทัพไปทำศึกสงครามแย่งชิงนางบุษบามาให้ได่ไม่ว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ข้าก็จะสู้จนกว่าจะตาย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รวมกันทั้ง2บทหรอคะ

      ลบ
    2. เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี

      ลบ
  2. หน้า45
    บัดนั้น พระโหราราชครูผู้ใหญ่
    รับรสพจนารภูวไนย คลี่ดำรับขับไล่ไปมา
    เทียบดูดวงชะตาพระทรงยศ กับโอรสถึงฆาตชันษา
    ทั้งชั้นโชคโยคยามยาตรา พระเคราะห์ขัดฤกษ์พาสารพัน
    จึงทูลว่าถ้ายกววววันพรุ่งนี้ จะเสียชัยไพรีเป็นแม่นมั่น
    งดอยู่อย่าเสด็จสักเจ็ดววัน ถ้าพ้นนั้นก็เห็นไม่เป็นไร
    ขอพระองค์จงกำหนดงดดยาตรา ฟังคำโหราหาฤกษ์ใหม่
    อันการยุทธ์ยิงชิงชัย หนักหน่วงน้าพระทัยดูให้ดี

    เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี
    ได้ฟังโหราพาที จึงมีพจนารถประภาษาไป
    เมื่อเราบัญชาการกำหนดทัพ แล้วจะกลับงดอยู่อย่างไรได้
    เกียรติยศจะไว้ในธรณินทร์ จนสุดสิ้นดินแดนแผ่นฟ้า
    ประการหนึ่งถ้าว่าช้าวันไป ทัพใหญ่จะมาพร้อมยังดาหา
    จะต้องหักหนักมือโยธา เห็นจะยากยิ่งกวว่านี้ไป
    สุดแท้แต่บุญกับกรรม จะฟังคำโหรานั้นหาไม่
    ตรัสพลางเสด็จคลาไคล เข้าในไพชยนต์มนเทียรทอง
    ………………………………………………




    ถอดคำประพันธ์(45)
    ท้าวกะหมังกุหนิงก็ไม่ฟังคำทัดทานเพราะรักลูกมาก
    จนไม่อาจทนเห็นลูกทุกขืทรมานได้ แม้จะรู้อาจสู้ศึกไม่ได้ แต่ก็ตัดสินใจทำฃสงครามด้วยเหตุผลที่บอกแก่อนุชาทั้งสองว่า เอ้นดูนัดดาโศกาลัย ว่ามิได้ไทจะมรณา แม้วิหยาสะกำมอดม้วย พี่คงตายด้วยโอรสา ผิดก้ทำสงครามดูตามที เคราะห์ดีก็จะได้ดังใฝ่ฝัน พี่ดังพฤกษาพนาวัน จะอาสัญเพราะลูกเหมือนกล่าวมา

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ30 ตุลาคม 2555 เวลา 07:32

      แปลใหม่ได้ไหมค่า

      ลบ
  3. เกรียงไกร ศูนย์กลาง21 กันยายน 2552 เวลา 08:18

    นาย เกรียงไกร ศูนย์กลาง ชั้น ม.๔/๒ เลขที่๑๐
    บทละครเรื่องอิเหนา
    (หน้า๔๓)

    บัดนั้น ทั้งสองทูตาคนขยัน
    ซึ่งถือสารไปเมืองดาหานั้น พากันรีบกลับมาฉับไว
    ถึงกะหมังกุหนิงนคเรศ มายังนิเวศน์วังใหญ่
    พอเวลาเฝ้าท้าวไท ก็เข้าไปในพระโรงรจนา

    จึงประนมก้มเกล้าเคารพ ทูลพระองค์ทรงภพนาถา
    ข้าไปได้ถวายสารา ท้าวดาหาทราบสิ้นทุกประการ
    ตรัสขาดว่าราชบุตรี จรกาธิบดีมากล่าวขาน
    พระยกให้ได้กำหนดนัดงาน ยังแต่จะแต่งการวิวาห์กัน
    บรรดาของถวายนั้นไม่รับ ส่งกลับคืนมาทุกสิ่งสรรพ์
    มิได้คิดเกรงองค์พระทรงธรรม์ บากบั่นสลัดตัดรอน
    ข้าทูลความตามสั่งนอกสารา ว่ามิให้พระธิดาดวงสมร
    จงเร่งตกแต่งพระนคร รับทัพภูธรจะยกมา
    จะชิงนางโฉมยงให้จงได้ ใครมีชัยก็จะสมปรารถนา
    ท้าวตรัสว่าตามแต่วิญญาณ์ พระราชาจงทราบบาทมูล

    เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงนเรนทร์สูร
    ได้ฟังทั้งสองทูตทูล ให้อาดูรเดือดใจดังไฟฟ้า
    จึงบัญชาตรัสด้วยขัดเคียง ดูดู๋เจ้าเมืองดาหา
    เราอ่อนง้อขอไปในสารา แต่ว่าจะรับไว้ก็ไม่มี
    ถึงจรกามากล่าวนางไว้ ได้ยกให้เขาก่อนก็ควรที่
    จะโอภาปราสยมาให้ดี นี่สิตัดไมตรีให้ขาดทาง
    เราก็เรืองฤทาศักดาเดช อาณาจักรนัดเรศกว้างขวาง
    จำต้องมีมานะไม่ละวาง จะชิงนางบุษบาลาวัณย์
    แม้นมิได้สมคิดดังจิตปอง ไม่คืนครองกรุงไกรไอวรรย์
    จะสงครามตามตีติดพัน ไปกว่าชีวันจะบรรลัย

    …………………………………………………..

    ถอดคำประพันธ์(หน้า๔๓)
    บัดนั้นทูตทังสองคนที่ท้าวกะหมังกุหนิงได้ส่งให้ถือสารไป
    เมืองดาหา รีบกลับมาหาท้าวกะหมังกุหนิงแล้วทูตบอกว่าท้าวดาหาได้ยกนางบุษบาให้กับระตูจรกาไปแล้ว ส่วนของที่นำไปฝากท้าวดาหาไม่รับและให้นำกลับมาคืน ข้าจึงได้บอกกับท้าวดาหาว่า ถ้าไม่ยกนางบุษบาให้ ก็ขอให้รอรับมือจะยกทัพกลับมาทำศึกสงครามเพื่อแย่งชิงนางบุษบา ท้าวดาหาจึงบอกว่าก็แล้วแต่พวกท่านเถิด
    เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงได้ฟังทูตทั้งสองบอกก็โกรธแค้นมาก จึงตัดพ้อต่อว่า ดูซิท้าวดาหาเราอุตส่าห์เขียนสารไปง้อขอนางบุษบาให้กับลูกชาย ก็น่าจะรับฟังความเห็นของข้าบ้างมาเล่นหักหน้ากันแบบนี้ เดี๋ยวข้าจะยกทัพไปทำศึกสงครามแย่งชิงนางบุษบามาให้ได่ไม่ว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ข้าก็จะสู้จนกว่าจะตาย

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ24 กันยายน 2552 เวลา 03:17

    นายนิวัติ จรมั่งนอก เลขที่ ๓๗ ชั้น ม.๔/๒
    ถอดคำประพันธ์ เรื่อง อิเหนา (หน้า ๗๓)

    ขณะนั้นท้าวกะหมังกุหนิงที่ยิ่งใหญ่ก็มีความสุขเพราะคิดว่าครั้งนี้อิเหนาจะได้ตายสมใจด้วยกฤต ว่าแล้วก็ร่ายรำไปมา มือขวานั้นถือกฤตมือซ้ายถือผ้าเช็ดหน้า
    ขณะนั้นระเด่นมนตรีที่เก่งกล้าถือกฤตไล่แทงหลบไปมาอย่างไม่มีหยุดมีหย่อน
    เห็นระตูเสียทีจึงเอากฤตแทงอกทะลุหลังจนระตูตายลง
    ขณะนั้นทั้งกะหรัดตะปาตี ระเด่นมนตรี สุหรานากง เห็นระเด่นมนตรีแทงระตูจนตาย เลยจะขี่ม้าไปฆ่าสังหารท้าวหยังประหมัน แต่ท้าวหยังประหมันก็รีบหนี ทหารต่างโห่ร้องเอาชัย ตามฆ่าทัพท้าวประหมันอย่างแข็งขัน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แล้วหน้า 78-80 ทำไมไม่มี

      ลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ24 กันยายน 2552 เวลา 03:21

    นายภาคิไนย พิศนอก เลขที่ ๓๖ ม.๔/๒
    ถอดคำประพันธ์ เรื่อง อิเหนา

    ขณะนั้นท้าวกะหมังกุหนิงที่ยิ่งใหญ่ต่างต่อสู้ด้วยกระบี่ที่มีท่องท่าอ่อนช้อยสวยงาม
    ขณะนั้นท้าวกะหมังกุหนิงใช้ดาบแทงระตูฟันหลายครั้งแต่ไม่ระคายผิวหนังเพราะมีฤทธิ์เดชมากแต่ท้าวกะหมังกุหนิงก็ไม่ลดความพยายาม
    ขณะนั้นท้าวกะหมังกุหนิงไม่ลดความพยายามตามแทงระเด่นมนตรีกระบี่กระทบกันจนเกิดประกาย
    ขณะนั้นระเด่นมนตรีใจกล้าเห็นระตูนั้นมีเพลงกระบี่ที่เก่งกล้าเป็นที่สุดยากหาใครเทียบทั้งยังมีกฤตที่พระอินทร์มอบให้ระเด่นมนตรีก็ว่าระตูว่าให้ลองมาสู้กันแล้วทำเย้ยระตูใหญ่ทำให้ระตูโมโห

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ25 กันยายน 2552 เวลา 03:56

    นายขจรศักดิ์ ภักดีแก้ว ม.๔/๒ เลขที่ ๕
    ถอดคำประพันธ์เรื่องอิเหนา หน้า ๓๖
    เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี
    เสด็จเหนือแท่นรัตน์มณี ภูมีเห็นสองอนุชา
    จึงตรัสเรียกให้นั่งร่วมอาสน์ สำราญราชหฤทัยหรรษา
    แล้วปราศรัยระตูบรรดามา ยังปรีดาผาสุขหรือทุกข์ภัย
    ซึ่งเราให้หามาทั้งนี้ จะไปตีดาหากรุงใหญ่
    ระตูทุกนครอย่านอนใจ ช่วยเราชิงชัยให้ทันการ


    เมื่อนั้น เหล่าระตูปรีดิ์เปรมเกษมศานต์
    จึงสนองมธุรสพจมาน พระมีการสงครามแต่ละครั้ง
    จะตั้งหน้าอาสาออกชิงชัย มิได้ย่อท้อถอยหลัง
    สู้ตายไม่เสียดายชีวัง กว่าจะสิ้นกำลังของข้านี้



    เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี
    ฟังระตูทูลตอบชอบที สมถวิลยินดีปรีดา
    จึงตรัสว่าท่านมาเหนื่อยนัก จงไปพักพลขันธ์ให้หรรษา
    ตรัสพลางทางชวนอนุชา เข้ามหาปราสาทรูจี



    ลดองค์ลงนั่งบนแท่นทอง กับด้วยพระน้องทั้งสองศรี
    จึงตรัสเล่าความตามคดี จนใช้เสนีถือสารไป



    เมื่อนั้น สองกษัตริย์ฟังแจ้งแถลงไข
    จึงทูลขัดทัดทานทันใด เป็นไฉนผ่านเกล้ามาเบาความ



    ถอดคำประพันธ์ได้ดังนี้

    ท้าวกะหมังกุหนิงเห็นน้องทั้งสองจึงเรียกให้มานั่งด้วยกัน แล้วพูดคุยถามว่า
    ยังมีสุขหรือมีทุกข์ ที่เราให้มาหา จะไปตีกรุงดาหา ระตูทุกเมืองอย่าประมาท ให้สู้สุดกำลัง
    จากนั้นเหล่าระตูจึงตอบกลับไปว่า
    จะสู้ศึกสงครามครั้งนี้อย่างเต็มที่และสุดความสามารถ ไม่เสียดายแม้แต่ชีวิต
    เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงได้ยินดังนั้นจึงขอบใจและเชิญชวนให้
    ทุกคนไปพักผ่อนที่ด้านในปราสาท
    แล้วพระองค์ก็นั่งลงกับน้องทั้งสองคน แล้วเล่าให้ฟังถึงสาเหตุของการรบ
    เมื่อน้องทั้งสองได้ยินจึงคัดค้าน เพราะเห็นว่าพระองค์ไม่ไตร่ตรองให้ดี

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
  8. เมื่อนั้น พระสุริย์วงศ์เทวาอัชฌาสัย
    สุดที่จะบิดเบือนเลื่อนวันไป ด้วยเกรงในบิตุเรศตัดมา
    ความกลัวความรักสลักทรวง ให้เป็นห่วงหนหลังกังวลหน้า
    แต่เรรวนหวนนึกตรึกตรา พระราชาสะท้อนถอนใจ
    จึงดำรัสตรัสสั่งตำมะหงง เร้งเตรียมจตุรงค์ทัพใหญ่
    ม้ารถคชสารชาญชัย รีบรัดจัดไว้ให้ครบครัน
    เลือกสรรโยธาตจงสามารถ ที่อยู่คงองอาจแข็งขัน
    แต่ปืนตึงก็ถึงทันควัน เข้าโรงรุกบุกบันฟันแทง
    เราจะตัดศึกใหญ่ให้ย่อย่น ด้วยกำลังรี้พลเข้มแข็ง
    แม้นไฟรีหนีมือกลางแปลง เห็นหักได้ไม่แคลงวิญญาณ์
    ฤกษ์รุ่งพรุ่งนี้จะยกไป ชิงชัช่วยกรุงดาหา
    สั่งเสร็จเสด็จทรงอาชา ไปเฝ้าท้าวหมันหยาฉับพลัน

    ครั้นถึงนิเวศน์วังใน ลงจากมโนมัยผายผัน
    ยุรยาตรนาดกรจรจรัล เข้าพระโรงสุวรรณทันใด

    บัดนั้น ดะหมังกุเรปันกรุงใหญ่
    จึงรีบไปหาเสนาใน แถลงไขข้อความตามคดี

    บัดนั้น อำมาตย์หมันหยากรุงศรี
    ได้แจ้งแห่งดะหมังเสนี ก็พาไปยังที่พระโรงคัล

    ก้มเกล้าประณตบมาลย์ พระผู้ผ่านวิชัยไอศวรรย์
    ทูลเบิกดะหมังเสนานั้น ว่าพระปิ่นกุเรปันใช้มา

    บัดนั้น ดะหมังผู้มียศถา
    นบนิ้วบังคมคัลวันทา ทลูถวายสาราพระภูมี

    ตอบลบ
  9. ช่วยเเปลหย่อยคับ ขอบคุณคับ

    ตอบลบ
  10. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  11. ช่วยถอดคำประพันธ์อิเหนา ตอนศึกกระหมังกุหนิง หน้า 27 หนังสือวรรณคดีวิจักดิ์หน่อยครับ

    ตอบลบ
  12. ถอดคำประพันธ์ให้หน่อยค่ะ ครั้นถึงถามถ่วนถี่ ทัพยกมานี่จะหนีไปไหน อยู่ยังถิ่นฐานบ้านเมืองใด คือใครเป็นจอมจัตุรงค์ ระเด่นมนตรีตรัสใช้ มาถามไถ่ให้แจ้งโดยประสงค์ จงบอกเนื้อความตามตรง จะได้ทูลองค์พระทรงธรรม

    ตอบลบ
  13. ถอดคำประพันธ์ให้หน่อยค่ะ ครั้นถึงถามถ่วนถี่ ทัพยกมานี่จะหนีไปไหน อยู่ยังถิ่นฐานบ้านเมืองใด คือใครเป็นจอมจัตุรงค์ ระเด่นมนตรีตรัสใช้ มาถามไถ่ให้แจ้งโดยประสงค์ จงบอกเนื้อความตามตรง จะได้ทูลองค์พระทรงธรรม

    ตอบลบ
  14. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  15. ถอดหน้า32ให้หน่อยค่ะ

    ตอบลบ